เครื่องชงกาแฟ

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ น่าจะพอทราบว่า นอกจากเมล็ดกาแฟที่เรามักจะพิถีพิถันนำมาเลือกชงดื่มเพื่อให้ทั้งรสชาติ กลิ่น ในแบบที่เราต้องการแล้ว “เครื่องชงกาแฟ” เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญ ที่มีส่วนช่วยให้รสชาติของกาแฟดีขึ้น สำหรับผู้ที่เป็นคอกาแฟตัวจริงหรือกำลังสนใจธุรกิจเปิดร้านกาแฟ การศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับอุปกรณ์ชนิดนี้ จะช่วยให้คุณเข้าถึงรสกาแฟอย่างลึกซึ้งไปอีกขั้น และสร้างเอกลักษณ์ให้กับร้านของคุณได้

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเครื่องชงกาแฟที่เราเห็นอยู่ทั่วไป จึงมีราคาขายที่แตกต่างกัน ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงราคาหลักหมื่น หลักแสน แล้วราคาที่แตกต่างกันนี้ จะส่งผลในเรื่องของรสชาติด้วยหรือไม่? วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูล ที่อาจช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟที่เหมาะสมและมีคุณภาพที่สุด

องค์ประกอบของเครื่องชงกาแฟมีอะไรบ้าง?

ภายในเครื่องชงกาแฟทุกประเภทตั้งแต่ราคาถูก ไปจนถึงระดับ​ High-end มักจะประกอบไปด้วย ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่สำคัญทั้งหมด 4 ส่วน ดังนี้

1. หัวกรุ๊ป (Group Head)

หัวกรุ๊ป หรือ หัวชง หมายถึงหัวสำหรับจ่ายน้ำร้อนเพื่อชงกาแฟ ที่เมื่อบาริสต้านำด้ามชง (portafilter) เข้าไปล็อคแล้ว หัวชงจะจ่ายและกระจายน้ำร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม ผ่านผงกาแฟ ลงมาสู่แก้วเสิร์ฟ

2. ก้านสตีมนม (Steam Wand)

ก้านสตีมเป็นส่วนของเครื่องชงกาแฟที่จะปล่อยไอน้ำร้อนแรงดันสูงจากภายในหม้อต้มออกมา เพื่อให้บาริสต้านำมาใช้สตีมนมสำหรับเมนูผสมนมเช่น cappuccino และ latte

3. หม้อต้ม (Boiler)

หม้อต้ม หรือ Boiler ของเครื่องชงกาแฟเป็นส่วนที่มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นส่วนประกอบหลักในระบบทำความร้อนของเครื่องชงกาแฟ

Brew Boiler มีหน้าที่ต้มน้ำร้อนสำหรับชงกาแฟ ซึ่งเครื่องชงกาแฟที่ดีนั้นจะให้คุณสามารถควบคุมอุณหภูมิน้ำที่ต้มใน brew boiler ได้ และเครื่องชงกาแฟแต่ละเครื่องจะมีระบบควบคุมความร้อนของน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

Steam Boiler จะมีหน้าที่ต้มน้ำเพื่อสร้างไอน้ำมาสตีมนม สำหรับทำเครื่องดื่มที่มีนมเป็นส่วนผสมหลัก

เครื่องชงกาแฟสามารถใช้ Boiler แค่ 1 อัน (เรียกว่าระบบ Heat Exchange Boiler) ที่ใช้หม้อต้มเดียวชงกาแฟและสตีมนมได้ ซึ่งระบบ Heat Exchange นั้นมีข้อดีตรงที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของเครื่องชง แต่อาจจะทำให้อุณหภูมิไม่เสถียรหากต้องชงหลายแก้วติดต่อกัน

เครื่องชงกาแฟอีกประเภทจะแยก boiler เพื่อชงกาแฟและ boiler เพื่อสตีมนม (เรียกว่าระบบ Double Boiler หรือ Multi-Boiler) ซึ่งราคาอาจจะแพงกว่า แต่ช่วยทำให้อุณหภูมิชงและแรงดันสตีมนมนั้นนิ่งและสม่ำเสมอกว่า แม้ต้องชงติดต่อกันหลายแก้ว และเหมาะสำหรับร้านที่ต้องเสิร์ฟกาแฟต่อเนื่องในปริมาณมากและต้องควบคุมคุณภาพทุกแก้ว

4. ปั๊มน้ำ

ปั๊มน้ำในเครื่องชงกาแฟ มีหน้าที่ดูดน้ำจากท่อน้ำเข้าไปยังหม้อต้มเพื่อต้ม และสร้างแรงดันสำหรับการสกัดกาแฟ

เครื่องชงกาแฟ Home Use (เช่นของยี่ห้อ ECM เป็นต้น) จะมีแหล่งน้ำขาเข้า 2 แบบให้ลูกค้าสามารถเลือกระหว่างต้องการให้เครื่องดูดน้ำขาเข้าจากแทงค์ หรือต่อน้ำตรงจากท่อ

แต่สำหรับเครื่องชงกาแฟ Commercial (สำหรับร้านค้า) ซึ่งไม่มีแทงค์น้ำนั้น ลูกค้าควรเลือกเครื่องชงที่มีปั๊มแข็งแรงเพื่อดึงน้ำทำกาแฟได้อย่างต่อเนื่อง

ทำไมเครื่องชงกาแฟจึงสำคัญ?

สิ่งที่คุณจะได้รับจากเครื่องชงกาแฟคุณภาพดี

1. ความทนทาน

สิ่งที่คุณจะได้รับจากการเลือกใช้เครื่องชงกาแฟคุณภาพดี คือ “ความทนทาน” ในการใช้งาน และเต็มประสิทธิภาพ ยิ่งคุณประกอบธุรกิจกาแฟ การลงทุนกับเครื่องชงกาแฟดี ๆ สักเครื่อง จะช่วยให้คุณอุ่นใจได้ว่าเครื่องสามารถทนการใช้งานอย่างต่อเนื่องทุกวัน วันละหลายชั่วโมง รองรับจำนวนลูกค้าจำนวนมากได้โดยไม่สะดุด และไม่ต้องกังวลถึงปัญหาการเปลี่ยนหรือซ่อมอุปกรณ์หรือตัวเครื่องชงอยู่บ่อย ๆ อีกทั้งไม่ทำให้สิ้นเปลืองเงินไปกับการซ่อมบำรุง ค่าช่าง และค่าอะไหล่อีกด้วย

2. ความยืดหยุ่น

เครื่องชงกาแฟที่ดีสามารถรองรับให้คุณปรับแต่งรายละเอียดในการชงได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น อุณหภูมิชง แรงดันสตีม หรือแม้กระทั่งการไหลของน้ำ และแรงดันน้ำเพื่อใช้ชงเฉพาะกับเมล็ดกาแฟเบลนด์ต่าง ๆ ซึ่งความสามารถในการปรับตัวแปรเหล่านี้จะช่วยให้คุณดึงรสชาติของกาแฟที่พิเศษและมีมิติมากขึ้น

3. ปริมาณในการชง

หากคุณกำลังเลือกเครื่องชงกาแฟ ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่นถ้าคุณเป็นบ้านหรือออฟฟิศขนาดเล็กถึงกลาง การเลือกเครื่องชงกาแฟ 1 หัวนั้นจะเพียงพอกับการชงกาแฟไม่กี่แก้วต่อวัน แต่ถ้าคุณกำลังจะเปิดร้านกาแฟที่ต้องรองรับออเดอร์ปริมาณมาก การเลือกเครื่องที่มี 2-3 หัว นั้น มีประโยชน์ช่วยให้คุณทำกาแฟได้เร็วขึ้น, ลดเวลาในการบริการลูกค้า และสำรองเหตุฉุกเฉิน เช่น หากมีหัวชงเกิดการขัดข้องยังสามารถใช้อีกหัวชงเพื่อเสิร์ฟกาแฟต่อระหว่างรอช่างซ่อมได้อีกด้วย

4. รสชาติ

เครื่องชงกาแฟคุณภาพดีจะมี PID สำหรับควบคุมอุณหภูมิชงให้เสถียร ไม่สวิงไปมา ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมมาตรฐานของช็อตกาแฟได้สม่ำเสมอขึ้น แต่ยังช่วยไม่ให้เกิดรสชาติหรือกลิ่นจากการไหม้เมื่อชงกาแฟติดต่อกันหลายแก้วอีกด้วย

5. ความน่าเชื่อถือ

ท้ายสุดแล้ว การเลือกเครื่องชงกาแฟยี่ห้อที่ดีนั้นส่งผลต่อภาพลักษณ์ของร้าน โดยการทำให้ลูกค้ารู้สึกไว้วางใจว่าหากคุณใส่ใจในการเลือกเครื่องชงกาแฟแล้ว ย่อมใส่ใจไปถึงการบริการด้วย รวมถึงพิถีพิถันในวิธีการชงเพื่อให้ได้เสิร์ฟกาแฟที่อร่อย คุณภาพสม่ำเสมออีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาเครื่องชงกาแฟระดับพรีเมียม เหมาะสำหรับทั้งการใช้งานที่บ้าน หรือสำหรับเปิดร้านธุรกิจกาแฟ ที่ The Home Barista เราคัดสรรและรวบรวมเครื่องชงกาแฟคุณภาพจากหลากหลายแบรนด์ดังมาให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เครื่องชงกาแฟคุณภาพ ใช้งานง่าย ราคาประหยัด ไปจนถึงเครื่องชงกาแฟ High-end สำหรับคอกาแฟโดยเฉพาะ

สามารถมาสัมผัสกับคุณภาพของเครื่องชงกาแฟจากเราได้แล้ววันนี้ ที่ The Home Barista สำนักงานใหญ่ (สาขาบางใหญ่) หรือสามารถเลือกชมและสั่งซื้อผ่านทาง www.thehomebarista.com หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ 02 403 4648 หรือ Line Official: @thehomebarista (มี @ ด้วยนะคะ)